3 ตัวเลือกสินค้า
mall inline badge
Sennheiser Momentum True Wireless 3 หูฟังไร้สาย True Wireless
ข้อตกลงของ Shopee Mall
ดีลพิเศษแบรนด์ชั้นนำ
ช้อปสนุกกับดีลพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำที่ Shopee Mall
ของแท้ 100%
Shopee รับประกันว่าสินค้าใน Shopee Mall ทุกชิ้นเป็นของแท้ 100% หากคุณได้รับสินค้าปลอม Shopee การันตีคืนเงินเป็น 2 เท่า ของราคาสินค้าที่คุณจ่าย
คืนเงิน/สินค้าใน 15วัน
ในกรณีที่คุณได้รับสินค้าผิดหรือมีตำหนิ คุณสามารถขอคืนเงิน หรือคืนสินค้า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการรับประกันว่าคุณจะช้อปกับเราได้อย่างสบายใจ เพียงแค่แจ้งเรื่องภายใน 15 วัน หลังจากได้รับสินค้า โดยหากคำขอเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดคุณจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ทั้งสะดวก สบายใจ และไม่มีค่าใช้จ่าย
ช้อปต่อ
ดีลพิเศษแบรนด์ชั้นนำดีลพิเศษแบรนด์ชั้นนำ
ของแท้ 100%ของแท้ 100%
คืนเงิน/สินค้าใน 15วันคืนเงิน/สินค้าใน 15วัน
ความคุ้มครองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เรียนรู้เพิ่มเติม
เก็บเงินปลายทาง
ฟรีค่าจัดส่ง
ค่าจัดส่ง:
฿0 - ฿27
คุณลักษณะ
แบรนด์,ประเภทการเชื่อมต่อ
รายละเอียด

เดินทางมาถึงในเจเนอเรชั่นที่สามกันแล้วครับสำหรับหูฟัง True Wireless จากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Sennheiser ที่ได้ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรันวงการหูฟัง True Wireless มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ที่ได้นำหูฟังรุ่นที่ขึ้นชื่อของค่ายอย่าง Momentum มาทำหูฟังไร้สาย 

โดยชูจุดเด่นที่ใช้ไดรเวอร์คุณภาพสูงระดับหูฟัง IEM ตัวเรือธงของค่ายตัวเองมาใส่ในหูฟังไร้สายด้วย ซึ่งแฟนตัวยงของแบรนด์หรือแม้แต่นักฟังหน้าใหม่ต่างก็ต้องรู้จักชื่อของ Momentum True Wireless แห่ง Sennheiser กันทุกคนครับ 

ผมได้ตัวเดโมของ Sennheiser Momentum True Wireless 3 มาใช้งานมาพักใหญ่แล้วและผมก็ได้ทดลองใช้งานอย่างจริงจังในทุก ๆ วันตามไลฟ์สไตล์ของผม ซึ่งหลังจากที่ใช้งานมาแล้วก็เลยจะมาเขียนให้กับทุกท่านได้อ่านกันเพื่อประกอบการตัดสินใจหรือท่านใดที่อยากอ่านเล่น ๆ ก็ได้ไม่ผิดกฏิกาแต่อย่างใดครับ ^^

:::การปรับโฉมใหม่ของตัวเคสที่ชวนให้งงแต่ยังทรงประสิทธิภาพ :::

หลังจากที่ได้แกะกล่องออกมาและได้สัมผัสกับตัวเคสนั้นก็รู้สึกได้ถึงความมีมนต์สะกดของซีรีย์นี้ ถึงแม้ว่าตัวเคสนั้นจะมีรูปทรงที่แทบจะคล้ายเดิมไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย 

แต่เมื่อลองพิจารณาดูแล้วก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วทั้งเรื่องขนาดที่เหมาะสมกับการพกพาและการหุ้มด้วยผ้าที่มีส่วนช่วยลดความเหนียวมือในการหยิบจับ เอาจริง ๆ บางท่านอาจจะขัดใจว่ารุ่นที่สามแล้วไม่คิดจะเปลี่ยนดีไซน์ตัวเคสบ้างเหรอ ? 

ซึ่งในความคิดของผมก็มองว่าอะไรที่มันดีอยู่แล้วก็ไม่ควรที่จะปรับเปลี่ยนและไม่แน่ว่าทางแบรนด์อาจจะคิดแบบเดียวกันด้วยซ้ำว่าตัวเคสมันดีอยู่แล้ว หลายคนมีภาพจำกับ Momentum ในรูปแบบนี้ และถ้าหากเปลี่ยนดีไซน์แล้วหลายคนไม่ชอบจะกลายเป็นจุดที่ต้องมาแก้ไขกันในรุ่นต่อ ๆ ไปอีก ซึ่งเอาไว้ถ้ามีดีไซน์ใหม่ที่ลงตัวกว่านี้ค่อยเปลี่ยนก็ยังไม่สายครับ

แต่ที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือจุดเชื่อมต่อสายชาร์จ USB-C ที่ย้ายจากด้านหลังมาอยู่ที่ด้านหน้าตัวเคส ซึ่งช่วงแรก ๆ ผมก็เผลอคิดว่าเป็นด้านหลังทำให้เปิดฝาเคสผิดด้านอยู่บ่อยครั้ง แต่พอใช้ไปสักพักก็เริ่มจับทางได้ไม่เปิดผิดฝั่งอีกต่อไปครับ ฮ่า ๆ ๆ หรือหากท่านใดที่มีแท่นชาร์จไร้สายอยู่แล้วตัวเคสก็ยังรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi อีกด้วยเช่นกันครับ 

::: เปลี่ยนโฉมใหม่ :::

ที่ตัวหูฟังนั้นมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ไปมากอย่างเห็นได้ชัด เพราะรูปทรงนั้นไม่เหมือนกับสองรุ่นที่ผ่านมาที่จะออกแบบมาเป็นทรงกลม ๆ แต่รอบนี้ทาง Sennheiser ได้ปรับเปลี่ยนให้ดูมีความเหลี่ยมมากขึ้นโดยมีมุมมีจุดตัดและผสมผสานกับความโค้งมนให้ตัวหูฟังดูมีมิติมากยิ่งขึ้นครับ 

โดยครั้งนี้ทาง Sennheiser ได้ออกแบบมาให้เลือกซื้อกันถึง "3 สี" ได้แก่ Black, White, Graphite ครับ โดยสี Graphite นั้นก็จะเหมือนกับตัวเดโมที่ผมได้มาทดสอบนั่นเองซึ่งสีนี้มีความสวยงามหรูหรามาก ๆ เลยล่ะครับ 

:::ใส่สบายและกระชับยิ่งขึ้นเอาใจคนกีฬา:::

แต่สิ่งที่สำคัญและทาง Sennheiser นั้นยังคงส่งมอบให้กับผู้ใช้งานได้มีความสะดวกสบายในการใช้งานหูฟังรุ่นนี้ก็คือเรื่องของการสวมใส่ที่ยังใส่ได้สบายเหมือนเดิมหรืออาจจะรู้สึกใส่ได้สบายมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไปสำหรับในบางท่านที่มีใบหูขนาดเล็ก 

เพราะรูปทรงแบบใหม่นี้ทางแบรนด์ได้เพิ่ม Ear Fins สำหรับยึดเกาะหูเข้ามาโดยมีให้เลือกเปลี่ยนได้ถึง 3 ขนาดด้วยกัน ทำให้สามารถใส่ได้กระชับและไม่หลุดหูง่ายอีกต่อไปครับ ฉะนั้นหากท่านใดที่อยากนำไปออกกำลังกายด้วยล่ะก็ตอนนี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วล่ะครับว่าหูฟังจะเคลื่อนหลุดจากหูแบบในรุ่นก่อน ๆ (ในบางท่าน) ส่วนมาตรฐานการป้องกันของเหลวนั้นยังคงอยู่ที่ IPX4 เช่นเดิมครับ  

:::อัปเกรดสเปคใหม่ไม่เป็นรองใคร:::

เป็นเรื่องปกติที่เวลามีหูฟังรุ่นใหม่ออกมาทดแทนรุ่นเดิมก็จะต้องมีการอัปเกรดสเปคให้ดีและน่าใช้มากยิ่งขึ้นครับ โดยในส่วนนี้ผมจะพูดถึงจุดหลัก ๆ ที่น่าสนใจนะครับ ส่วนสเปคอื่น ๆ เดี๋ยวสรุปให้ในรูปสุดท้ายอีกทีจ้า 

ไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว : ทาง Sennheiser ได้ใส่ไมโครโฟน Beamforming แบบตัดเสียงรบกวนเข้ามาในหูฟังข้างละ 3 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Adaptive Noise Cancelling, Transparency Mode และสามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ดีมากกว่าเดิมครับ 

ตัดเสียงได้เงียบยิ่งขึ้น : รอบนี้ระบบ ANC นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตัวไมค์สามารถคัดกรองเสียงรบกวนรอบข้างลงได้เยอะกว่าเดิม ทำให้สามารถใส่หูฟังไว้เฉย ๆ โดยไม่ต้องเปิดเพลงเพื่อโฟกัสกับการทำงานได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่รู้สึกวิงเวียนศีรษะครับ 

โดยผมใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์ตัดสินนะครับ สำหรับบางท่านที่ Sensitive ก็ระบบ ANC แนะนำว่าให้เข้ามาทดสอบด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อครับผม อีกทั้งยังเป็นระบบ ANC แบบ Adaptive ที่จะปรับให้ตามเสียงแวดล้อมที่เราใช้งานอยู่ในขณะนั้นอีกด้วย  

เปิดรับเสียงภายนอกได้แม่นยำกว่าเดิม : ระบบ Transparency หรือการเปิดรับเสียงจากภายนอกนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะมีหลายท่านได้ใช้งานกันบ่อย ๆ โดยรอบนี้ทาง Sennheiser ได้ปรับปรุงมาให้เสียงที่เข้ามานั้นมีความแม่นยำยิ่งขึ้นลดเสียงซ่า ๆ แตก ๆ ได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถเลือกได้ว่าจะตอนเปิดระบบ Transparency จะให้เพลงที่ฟังอยู่นั้นเล่นต่อเนื่องไปหรือจะให้หยุดเพลงไว้ก่อนก็ได้เช่นกันครับ 

สนทนาได้ดีกว่าที่เคย : ด้วยตัวไมโครโฟนที่มากขึ้นตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้นจึงทำให้การสนทนาของเรานั้นมีคุณภาพที่ดีขึ้นตามไปด้วยครับ เสียงรอบข้างเล็ดลอดเข้าไปยังปลายสายได้น้อยลง โฟกัสเสียงพูดของเราได้ชัดขึ้นไม่แห้งบางแม้จะสวมใส่แมสก์อยู่ก็ตามครับ จุดนี้หลายท่านที่ต้องการหูฟังเสียงดี ๆ และไมค์ดี ๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อยล่ะครับ 

แชทเลย
เพิ่มไปยังรถเข็น
ซื้อสินค้า