Ovulation (LH) Test Cassette / ชุดตรวจสอบหาระยะตกไข่ / แบบหยด ทำไมต้องทดสอบหาฮอร์โมน LH (Luteinizing Hormone) ฮอร์โมนลูติไนซิ่ง (Luteinizing Hormone) พบในปัสสาวะ และจะมีปริมาณมากขึ้นในระยะก่อนตกไข่ ฮอร์โมนนี้ถูกสร้างจากต่อมใต้สมองส่วนหน้ามีหน้าที่กระตุ้นให้ไข่ตกจากรังไข่ ช่วงปกติร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน LH ออกมาในปริมาณน้อยจนถึงระยะก่อนเวลาตกไข่ ฮอร์โมน LH จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและการตกไข่จะเกิดภายในเวลา 24 - 48 ชั่วโมง ดังนั้นการตรวจหาช่วงเวลาตกไข่ได้ล่วงหน้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ชุดทดสอบนี้จะช่วยให้ทราบวันที่ฮอร์โมน LH มีปริมาณสูงสุด (LH Surge) ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์และมีความแม่นยำถึง 99.9% ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจสอบ ควรตรวจสอบรอบของประจำเดือนปกติ โดยเริ่มนับตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนวันแรกจนกระทั่งเริ่มมีประจำเดือนวันแรกของเดือนถัดไป จึงทราบรอบประจำเดือนและวันที่จะเริ่มตรวจระยะตกไข่ ถ้ารอบของประจำเดือนสั้นกว่า 21 วัน หรือนานกว่า 38 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือไม่แน่ใจรอบของประจำเดือน อาจจะเริ่มตรวจสอบได้โดยนับจากประจำเดือนวันแรกไปอีก 11 วัน และตรวจสอบติดต่อกัน 5 วันหรือจนกระทั่งตรวจพบฮอร์โมน LH การเก็บตัวอย่างปัสสาวะสำหรับตรวจ ควรลดการดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มให้น้อยลง 2 ชั่วโมงก่อนทำการตรวจหาฮอร์โมนเนื่องจากอาจทำให้ฮอร์โมน LH เจือจาง และไม่สามารถตรวจพบได้ ไม่ควรตรวจสอบจากปัสสาวะในช่วงแรกของวัน เพราะฮอร์โมน LH จะถูกสร้างในช่วงเช้าและจะพบในปริมาณน้อย จึงอาจให้ผลลัพท์ที่ไม่แน่นอน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บปัสสาวะคือ 10.00 – 20.00 น. ควรเก็บตัวอย่างปัสสาวะในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน อุปกรณ์ในชุดตรวจ / 1 ชุด ชุดตรวจสอบหาระยะตกไข่ ชนิดหยด จำนวน 1 ชุด วิธีการทดสอบ -ฉีกซองอลูมิเนียมฟอยล์แล้วนำชุดทดสอบออกจากซองวางบนพื้นราบ -ใช้หลอดพลาสติกที่ให้มาด้วยดูดปัสสาวะ ซึ่งอยู่ในถ้วยเตรียมไว้ -หยดปัสสาวะลงในหลุมทดสอบ 2 หยด ช้าๆ โดยให้หยดแรก ซึมลงก่อน -วางชุดทดสอบไว้ประมาณ 3-5 นาที จึงอ่านผลการทดสอบจากช่องอ่านผล -การนำผลที่ได้ไปประยุกต์ใช้ - เมื่อตรวจผลได้ Positive นั่นหมายถึงจะมีไข่ตกภายใน 24 – 48 ชั่วโมง เพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ที่ดีที่สุด ควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าว